Abaddon the Despoiler WIP 6

Some more finished details.

ชิ้นส่วนบางชิ้นที่มีรายละเอียดเยอะและสามารถนำมาติดทีหลังได้ จะถูกแยกออกมาเพนท์ต่างหาก เพื่อความสะดวกในการเพนท์เก็บรายละเอียดเล็กๆครับ

Reviews : RGG 360°

Ergonomic Handle by Redgrass Games

สวัสดีครับ วันนี้มีอุปกรณ์สำหรับช่วยในการเพนท์สีมารีวิวให้ชมกันครับ เป็นมือจับสำหรับเพนท์มิเนียเจอร์ชื่อ RGG 360° ของบริษัท Redgrass Games ซึ่งได้ทำแคมเปญบน Kickstarter ของสินค้าตัวนี้มาตั้งแต่ต้นปี และพึ่งผลิตเสร็จและส่งให้กับคนที่สั่งจองเอาไว้ในเดือนนี้ครับ โดยที่ตัวมือจับนี้ออกแบบมาสำหรับใช้ในการเพนท์มินิที่ติดบนฐานโดยเฉพาะ สามารถใช้กับฐานขนาดเล็กสุดไปจนถึงฐานขนาด 50mm ครับ

สำหรับตัวสินค้าที่ได้มานั้น ส่งมาให้ในซองพลาสติกแบบในภาพครับ และมีภาพประกอบพร้อมคำอธิบายวิธีใช้งานไว้ที่ด้านหลังซอง เมื่อแกะออกมาจะมีตัวมือจับที่ทำจากพลาสติก และกาวดินน้ำมันสีส้มสำหรับติดที่ส่วนด้านบนของมือจับ เพื่อใช้ในการยึดฐานมินิให้ติดอยู่กับมือจับครับ

เมื่อลองนำมาใช้ดูแล้วรู้สึกว่าส่วนที่เป็นด้ามนั้นออกแบบมาให้เข้ากับอุ้งมือ ทำให้เวลาจับนั้นรู้สึกว่ามันจับได้กระชับและเหมาะมือดี และตัวพลาสติกที่ใช้ทำนั้นดูแข็งแรงและมีน้ำหนักนิดหนึ่ง ทำให้เวลาวางมือจับบนโต๊ะแล้วดูมั่นคงดีทีเดียว ส่วนด้านบนของมือจับจะเป็นวงกลมที่หมุนได้รอบเพื่อให้สะดวกในการเพนท์มุมอื่นๆของตัวมินิ โดยอาศัยนิ้วโป้งในการหมุนเปลี่ยนมุมตามที่เราต้องการ
ส่วนกาวดินน้ำมันที่ให้มานั้น จะใช้การบิออกมาเพียงแค่บางส่วนเพื่อถมให้เต็มส่วนด้านบนวงกลมของมือจับ ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ใช้ได้อีก ในด้านหลังซองจะมีคำเตือนให้หาอะไรมาปิดส่วนของกาวดินน้ำมันไว้หากไม่ได้ใช้งาน เพื่อให้ประสิทธิภาพของตัวกาวนั้นไม่ลดลงครับ

ผมทดลองเอางานหลายๆแบบมาติดลงบนมือจับดู พบว่าถ้าเป็นงานมินิที่ติดลงบนฐาน เมื่อเอามาติดลงบนมือจับ โดยออกแรงกดให้ตัวฐานนั้นแนบกับกาวดินน้ำมันให้มากที่สุด พบว่าติดได้แข็งแรงดีมาก สามารถคว่ำและเขย่าไปมาได้โดยที่ไม่หลุดออกเลย จากนั้นจึงลองนำงานบัสมาติดดู ก็ได้ผลลัพท์ที่ดีเช่นกัน ติดได้แข็งแรงและเหมาะมือมาก แต่สำหรับฟิกเกอร์หรือมินิที่ไม่ได้ติดลงบนฐาน เมื่อลองเอาส่วนเท้ามากดลงบนกาวดินน้ำมัน ไม่สามารถยึดติดได้ดีนักและหลุดออกได้ถ้าเขย่าหรือกลับหัว
จึงสรุปว่าชิ้นงานที่จะนำมาติด ยิ่งมีพื้นที่สัมผัสกับกาวดินน้ำมันมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้การยึดติดนั้นแข็งแรงมากขึ้นครับ

โดยรวมแล้วส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับมือจับนี้ แม้จะไม่สามารถใช้ได้กับงานทุกประเภท แต่ก็ออกแบบมาให้ใช้ได้สะดวกและเหมาะมือดีมากครับ หากสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อได้ที่เว็บของเค้าครับ รู้สึกตอนนี้ยังมีเปิดให้พรีออเดอร์อยู่ครับ

https://www.redgrassgames.com/

ตัวมือจับสามารถวางบนพื้นราบได้มั่นคงดีทีเดียว

ซองบรรจุแบบเรียบง่าย

มีคำอธิบายการใช้งานอยู่ด้านหลัง

สิ่งที่ให้มาในซองคือมือจับกับกาวดินน้ำมัน

เมื่อนำกาวดินน้ำมันมาติดลงที่ส่วนด้านบนที่หมุนของมือจับแล้ว

มินิที่ติดบนฐานแล้วนำมาติดลงบนมือจับได้แข็งแรงดีมาก ในภาพเป็นฐานมินิขนาด 40mm

สามารถหมุนเปลี่ยนมุมของมินิได้ง่ายด้วยนิ้วโป้งเพียงนิ้วเดียว

ลองเอาบัสมาติดดู ติดได้แข็งแรงและเหมาะมือดีทีเดียว

ส่วนฟิกเกอร์ 1/35 เมื่อนำมาลองติดจะไม่มั่นคงนัก และอาจหลุดออกระหว่างเพนท์ได้ เพราะพื้นที่สัมผัสกับกาวดินน้ำมันที่น้อยเกินไป

ลองนำฐานขนาด 60mm มาติดดู จะเห็นว่าใหญ่ล้นออกมาพอสมควร ถ้าเพนท์เฉพาะส่วนของฐานแบบนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้ามีมินิติดอยู่ที่ฐานด้วยคงจะไม่สะดวกในการเพนท์สักเท่าไหร่

Abaddon the Despoiler WIP 5

It's been so long since my last update on this project. I still work on him from time to time, with many things going in my life at the moment, it's quite difficult for me to get something done in a short period. This project took me a lot of time and effort but I'm pretty happy with how it turned out. I'll definitely try to finish him this year. I'll post more updates soon.

มาอัพเดทผลงานชิ้นนี้กันบ้างครับหลังจากที่หายไปนานหลายเดือน จริงๆผมยังคงทำงานชิ้นนี้อยู่เรื่อยๆ แต่เนื่องจากงานประจำที่ค่อนข้างยุ่งเลยไม่ค่อยมีเวลามานั่งเพนท์งานตัวเองสักเท่าไหร่ จะมีเวลาว่างช่วงสุดสัปดาห์เท่านั้นก็เลยทำได้ทีละนิดทีละหน่อย แต่ถึงแม้จะใช้เวลาในการทำงานชิ้นนี้นานมาก(น่าจะเกินครึ่งปีแล้ว) ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลที่ออกมาครับ สำหรับตอนนี้ทำมาได้เกินครึ่งทางแล้ว หลังจากนี้จะพยายามทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จภายในปีนี้ให้ได้ ไว้ถ้ามีความคืบหน้าเมื่อไหร่คงจะนำมาลงให้ชมกันอีกทีครับ

After 4 Hours Experiment with Anonimous Bust

#f__ksmoothness
(My Workbench Diorama No.02)

This is a diorama of my workbench that I finished back in 2017. I posted the first part of this project with only the bust photos a year ago then I totally forgot to post this second part. Again, I'm so forgetful LOL. Here're the complete photos of this project, hope you like it.  

เมื่อปลายปีที่แล้วผมได้โพสภาพของงานบัสชิ้นนี้ไว้และบอกว่าจะนำภาพส่วนที่สองที่เป็นตัวฉากมาลงอีกที หลังจากนั้นผมก็ลืมไปเสียสนิทเลยจนพึ่งจะนึกได้หลังจากที่ผ่านมาเกือบปี ครั้งนี้เลยนำภาพทั้งหมดมาลงไว้ในอัลบั้มเดียว หวังว่าคงจะชอบกันครับ

สำหรับการเพนท์ตัวบัส ผมใช้สีของ Vallejo และเพนท์ตั้งแต่ต้นจนจบภายในเวลา 4 ชั่วโมงครับ งานชิ้นนี้ทำขึ้นเพื่อทดลองการเพนท์สีผิวในแบบที่ผสมเอง และเป็นการเพนท์แบบทิ้งทีแปรง ที่ไม่ได้เน้นเรื่องความเรียบเนียนของสี แต่จะให้ความสำคัญต่อการให้สีและแสงเงามากกว่าครับ

Reviews : Kimera Kolors

สวัสดีครับ ช่วงที่ผ่านมาหลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อของสี Kimera Kolors กันมาบ้าง วันนี้เลยจะมารีวิวสียี่ห้อนี้ให้ได้ชมกันครับ

Kimera Kolors เป็นสีที่ผลิตโดย Kimera Models ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Pegaso Models จากประเทศอิตาลี่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 โดย Kimera Models จะเน้นไปที่การผลิตงานฟิกเกอร์แนวแฟนตาซีเป็นหลักทั้งงานบัสและแบบเต็มตัว ช่วงปลายปีที่แล้วทาง Kimera Models ได้เปิดตัวสี Kimera Kolors ซึ่งเป็นสีสำหรับใช้ในการเพนท์ฟิกเกอร์แนวแฟนตาซีโดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีมากและมีคนสนับสนุนมากมายจนสินค้า 300 ชุดแรกที่เปิดให้พรีออเดอร์นั้นหมดลงอย่างรวดเร็ว และจัดส่งให้กับให้กับผู้ที่พรีออเดอร์ไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วครับ

ตัวผมเองเมื่อได้สีชุดนี้มาก็นำมาลองใช้กับงาน Sgt. Blackburn เป็นชิ้นแรก และใช้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆกับงานชิ้นอื่นๆ จริงๆตั้งใจว่าจะเขียนรีวิวสีนี้มาตั้งแต่ต้นปี แต่คิดว่าลองใช้ให้คุ้นก่อนดีกว่าค่อยนำมารีวิวกันทีเดียว จะได้บอกข้อดีข้อเสียได้ว่าเป็นอย่างไรครับ

โดยสี Kimera Kolors จะมาแบบเป็นเซ็ต 14 ขวด ประกอบด้วยสี 13 สี และ Satin Medium 1 ขวด สนนราคาทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ $70 สหรัฐ รวมค่าส่งแล้ว ซึ่งปริมาตรบรรจุของขวดจะมีขนาด 30ml ใหญ่กว่าของ Vallejo (17ml) และ Citadel (12ml) นอกจากนั้นภายในกล่องก็จะมีแผ่นพับตัวอย่างของการผสมสีแนบมาให้ด้วย เพื่อเป็นแนวทางให้สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับการผสมสีด้วยตัวเอง ให้ลองทำตามได้สะดวกมากขึ้น

สำหรับการนำไปใช้งานจริง สีคิเมร่าเคลมไว้ว่าเป็นสีที่มีพิกเมนต์เข้มข้นมากกว่า 30% ทำให้สีที่ทาลงไปบนพื้นผิวนั้นทึบและเต็มเร็ว ด้วยเหตุนี้การผสมสีที่เข้มกว่าลงบนสีที่อ่อนกว่า เพียงแค่ผสมสีที่เข้มกว่าลงไปนิดเดียวก็พอที่จะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีได้ชัดเจน นอกจากนี้ลักษณะของสีที่หยดออกจากขวดจะค่อนข้างข้น จึงควรผสมน้ำเล็กน้อยก่อนนำไปทาลงบนชิ้นงาน และควรเขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้เพื่อให้สีที่อาจตกตะกอนภายในขวดนั้นผสมเข้าด้วยกันเสียก่อน

ข้อดีของสีคิเมร่า เท่าที่ลองใช้มาจะทาได้ง่ายและทึบไว ให้พื้นผิวที่เรียบและด้านสนิท เมื่อทาลงบนพื้นผิวสีจะแห้งเร็ว เรียกว่าแทบจะแห้งทันทีที่ยกพู่กันออก ทำให้การทาเกลี่ยสีหรือการทาเกลซนั้นทำได้สะดวกมากขึ้น เพราะสีที่แห้งเร็วจะทำให้เห็นชั้นสีที่ลงไว้ได้ชัดเจนและทำงานได้ต่อเนื่อง(และสนุกมากขึ้น) ส่วนตัวชอบสีดำของคิเมร่ามาก เพราะสีดำของคิเมร่าให้สีที่ด้านแต่ดำสนิท มากกว่าสีดำของหลายๆยี่ห้อที่เคยลองใช้มา ที่จะออกไปทางเทาดำหรือให้พื้นผิวแบบกึ่งมันกึ่งด้าน ตอนนี้จึงให้สีดำของคิเมร่าเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งครับ
อีกหนึ่งอย่างที่ชอบคือขวดสีของคิเมร่านั้นออกแบบมาให้หยดสีออกมาได้ทีละหยด ทำให้สะดวกต่อการกะปริมาณของการผสมสีแต่ละครั้งให้ได้สัดส่วนที่เท่าเดิมกับที่ผสมไว้ก่อนหน้า 
ข้อดีสุดท้ายที่พบคือสีคิเมร่าเมื่อนำมาใช้บน wet palette แล้ว จะสามารถเก็บได้นานเป็นอาทิตย์ (เก็บในกล่องที่มีฝาปิดมิดชิด) เท่าที่เคยลองใช้คือหลังจากผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ เมื่อกลับมาเปิดดูสียังคงแฉะๆอยู่ พอเอาน้ำหยดลงไปและกวนสีให้เข้ากันใหม่ ก็ยังสามารถนำมาใช้ทาได้โดยที่คุณสมบัติของสีนั้นยังคงเดิม

ข้อเสียของสีคิเมร่า เนื่องจากพิกเมนต์ของสีที่เข้มข้นและสีนั้นแห้งเร็ว ทำให้สีบางสีที่โดยปกติทายากอยู่แล้วอย่าง สีแดง สีเหลือง และสีขาว ต้องการการผสมสีกับน้ำให้เจือจางมากกว่าที่ใช้กับสียี่ห้ออื่นๆ เพราะสีเหล่านี้หากผสมน้ำน้อยเกินไป เมื่อทาลงไปแล้วสีแห้งเร็ว จะทำให้สีนั้นหนาและเกิดเป็นรอยทีแปรงได้ง่าย การผสมน้ำที่มากขึ้นจะช่วยลดปัญหานี้แต่ก็ทำให้การทาสีเหล่านี้ใช้เวลาในการทาให้ทึบนานกว่าสีอื่นๆ คนที่เคยชินกับการใช้สียี่ห้ออื่นมาโดยตลอด อาจจะต้องมาปรับวิธีการใช้หรือผสมสีกันใหม่ 
นอกจากนี้การที่สีคิเมร่านั้นทำออกมาเพียงแค่ 13 สี (อาจจะมีการผลิตสีอื่นๆเพิ่มขึ้นในอนาคต) จึงทำให้ผู้ใช้ต้องผสมสีต่างๆที่ต้องการขึ้นมาเอง เพราะสีที่ให้มาเป็นเพียงสีหลักๆที่ใช้งานบ่อยแต่ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด แม้จะมีแผ่นพับตัวอย่างการผสมสีมาให้ แต่ตรงจุดนี้ยังต้องอาศัยประสบการณ์พอสมควรและอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชำนาญในเรื่องของการผสมสี

โดยสรุปแล้ว สีคิเมร่าเป็นสีที่ดีมากและตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองหลายๆอย่าง ส่วนตัวจึงให้สียี่ห้อนี้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของการเพนท์งานแนวแฟนตาซี แต่ด้วยข้อจำกัดของเฉดสีที่มีมาให้ ถ้าเป็นงานประเภทฟิกเกอร์ทหาร หรือประวัติศาสตร์ ส่วนตัวก็ยังคงใช้สีของ Vallejo เช่นเดิมเพราะสะดวกกว่ามาก หรือหากต้องการสีเฉพาะสำหรับการเพนท์สเปซมารีนแชปเตอร์ต่างๆ ก็คงยังเลือกใช้สีของทาง Citadel เพราะว่ามันสะดวกกว่าเช่นกันครับ

หากท่านสนใจสีที่ให้ความด้านสนิทและชอบความท้าทายของการผสมสี สียี่ห้อนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากอีกอันหนึ่งครับ แต่เนื่องจากสีนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้ จึงทำให้การหาซื้ออาจจะลำบากสักหน่อย ต้องคอยติดตามข่าวสารจากทางเพจของ Kimera Models ที่จะคอยแจ้งว่าสีลอตใหม่จะเข้าเมื่อไหร่ (ซึ่งจะขายหมดเร็วมาก) หากสนใจเข้าไปติดตามได้ทางลิ้งด้านล่างครับ และหวังว่าบทความนี้คงจะช่วยให้รู้จักสียี่ห้อนี้กันได้ดีมากขึ้น หากมีคำถามใดๆเพิ่มเติมสามารถสอบถามมาได้ตลอดครับ ส่วนภาพต่างๆที่ลงไว้จะมีคำบรรยายเพิ่มเติมกำกับไว้ด้วยครับ ไว้พบกันใหม่คราวหน้าครับ

https://kimeramodels.com/
https://www.facebook.com/kimeramodels/

 หน้าตาของบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาอย่างสวยงามและสะดวกต่อการหยิบใช้

แผ่นพับที่มีให้มาในกล่องบอกรายละเอียดและคุณสมบัติของตัวสี รวมถึงตัวอย่างการผสมสีแบบต่างๆ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

 เปรียบเทียบขนาดของขวดสี Kimera Kolors, Vallejo และ Citadel

Sgt. Blackburn เป็นงานชิ้นแรกที่ทดลองใช้สีคิเมร่าในการเพนท์ทั้งหมด ยกเว้นส่วนของสีเมทัลลิกที่ไม่มีผลิตออกมา และส่วนของผิวเนื้อที่เพนท์เอาไว้ก่อนที่สีคิเมร่าจะมาถึง ในภาพจะเห็นสีของชุดเกราะที่ดูสด(rich) และด้านสนิทซึ่งเกิดจากคุณสมบัติของตัวสีเองโดยไม่ได้มีการผสมมีเดียมหรือพ่นเคลือบใดๆเลย สำหรับภาพเพิ่มเติมของงานชิ้นนี้เข้าไปดูได้ตามลิ้งครับ

https://thor-modelling.blogspot.com/2019/03/sgt-blackburn.html

งาน Abaddon ชิ้นนี้นำสีคิเมร่ามาใช้ในหลายๆส่วน เช่นสีผิว, ชุดเกราะสีดำแดง รวมถึงสีเงิน NMM ที่คอและส่วนข้อต่อต่างๆก็ใช้สีคิเมร่าเช่นกัน

สีที่นำมาใช้ผสมเป็นสีเนื้อของ Abaddon ไล่จากหยดสีซ้ายไปขวาคือ Yellow Oxide, Red Oxide, Pthalo Blue, Carbon Black, The White, Violet เนื่องจากต้องการให้สีผิวนั้นดูซีดและไม่เหมือนสีผิวของมนุษย์ทั่วไป จึงนำสีน้ำเงินมาผสมในสีผิวและใช้สีม่วงมาทาเกลซเพิ่มน้ำหนักในส่วนของเงา 

ส่วนการผสมสีที่เห็นจะเป็นการผสมสีแบบไล่เฉดจากเข้มไปหาอ่อน โดยส่วนด้านซ้ายจะเป็นสีเข้มคือน้ำเงินผสมดำเล็กน้อย แล้วนำสีแดงมาผสมให้สีทั้งสองนั้นกลืนกัน จากนั้นนำสีเหลืองมาผสมให้กลืนกับสีแดง และนำสีขาวมาผสมให้กลืนกับสีเหลืองอีกที จนได้สีไล่จากเข้มไปอ่อนแบบที่เห็น พอเวลาเพนท์สีไล่แสงเงาบนชิ้นงานก็จะเลือกแต้มสีให้ตรงกับแต่ละส่วนตามที่ผสมเอาไว้
วิธีผสมสีแบบนี้จะเหมาะกับการเพนท์พื้นที่ๆไม่ใหญ่มากและสามารถเพนท์จนเสร็จได้ในเวลาไม่นานนักครับ

Reviews : GRUNT STONECRACKER

Joaquin Palacios Studio 1/12 scale

วันนี้มีรีวิวโมเดลบัสมาฝากกันครับ พอดีช่วงหลังๆเริ่มเห็นมีคนหันมาสนใจฟิกเกอร์หรือบัสแนวแฟนตาซีกันมากขึ้น เลยอยากเอามาแนะนำให้ได้ชมกัน ว่ารายละเอียดต่างๆบนชิ้นงานของงานประเภทนี้นั้นเป็นอย่างไร และในอนาคตถ้ามีโอกาสคงจะเอางานฟิกเกอร์หรือบัสแนวแฟนตาซีมารีวิวให้ชมกันอีกเรื่อยๆครับ

สำหรับงานชิ้นนี้ปั้นขึ้นมาตามภาพต้นแบบที่วาดโดย Daniel Zrom เป็นผลงานการปั้นของ Joaquin Palacios นักปั้นแนวแฟนตาซีชื่อดังที่มีผลงานการปั้นให้กับบริษัทฟิกเกอร์หลากหลายยี่ห้อครับ และทำฟิกเกอร์ยี่ห้อของตัวเองด้วยคือ Joaquin Palacios Studio หากสนใจงานบัสชิ้นนี้ลองเข้าไปดูได้ตามลิ้งที่ลงไว้ด้านล่างครับ

https://www.joapalastudio.com/
https://www.facebook.com/JoaquinPalaciosStudio/

 ชิ้นส่วนมีไม่มากเท่าไหร่ มาพร้อมกับภาพเขียนที่ใช้เป็นต้นแบบและใบรับรองว่าเราซื้อของออริจินอล

 รายละเอียดบนชิ้นงานโดยรวม ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีในการหล่อชิ้นงานในยุคนี้นั้นทำได้ดีมากๆ แทบจะไม่มีตะเข็บหรือรูให้ต้องมาคอยอุดขัดกันเท่าไหร่ ไม่ใช่เพียงยี่ห้อนี้เท่านั้น แต่อีกหลายๆยี่ห้อก็ทำได้ดีมาก งานเรซิ่นในยุคนี้จึงทำง่ายกว่าสมัยก่อนมากครับ

 ส่วนของฐานวางที่แถมมาให้พิเศษสำหรับคนที่สั่งแบบพรีออเดอร์ ไม่แน่ใจว่าจะมีแยกขายในภายหลังหรือเปล่าครับ